ความจริงเกี่ยวกับ Productivity ที่ไม่มีใครบอกคุณ
PRODUCTIVITY
4/13/2025
เวลาเราได้ยินคำว่า “Productivity” หรือ “ความ Productive” หลายคนอาจจะนึกถึงภาพของคนที่ลุกขึ้นมาทำงานตั้งแต่ตี 5 เขียน To-do list ได้ 20 อย่างต่อวัน แล้วก็ทำทุกอย่างเสร็จหมดก่อนพระอาทิตย์ตก
แต่ความจริงแล้ว…Productivity ไม่ได้แปลว่า “ต้องทำเยอะ” และมันอยากให้คุณทำน้อยลงด้วยซ้ำ
Productivity = ใช้แรงน้อยที่สุด เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
ผมชอบเปรียบ Productivity เหมือนการเปิดแอร์ในห้อง
ถ้าเราหารีโมตไม่เจอ ต้องปีนขึ้นไปเปิดเอง มันก็คือ “งานสำเร็จ แต่เหนื่อย” และมีวิธีที่ดีกว่า
แต่ถ้าเราหารีโมตเจอ แล้วกดแค่ปุ่มเดียว นั่งสบาย ๆ แอร์ก็เย็นทันที — นี่แหละ Productivity
มันคือการ “หาวิธีที่ฉลาดขึ้น” แทนที่จะ “พยายามให้มากขึ้น”
เคล็ดลับจริง ๆ ไม่ใช่ตื่นเช้า หรือทำ 100 อย่างต่อวัน
มีช่วงนึงที่ผมพยายามจะ “productive” ตามสูตรของคนอื่น ตื่นตี 5, อ่านหนังสือวันละ 1 ชั่วโมง, เขียน journal, ดื่มน้ำอุ่นผสมเลม่อน ฯลฯ แต่พอผ่านไปสักพัก ผมกลับรู้สึกเหนื่อย เครียด แล้วก็ “ไม่อยากทำอะไรเลย”
ผมถึงได้รู้ว่า…Productivity ไม่ได้มีสูตรตายตัว แต่มันคือการหาวิธีทำงานหรือใช้ชีวิตที่ “เหมาะกับเรา” มากที่สุด
ความลับเล็ก ๆ ของคน Productive
เขา “เลือกทำ” มากกว่า “ทำทุกอย่าง”
เขารู้ว่าอะไรคือ “สิ่งสำคัญ” แล้วลงมือทำให้เสร็จ
เขารู้จัก “หยุดพัก” แบบไม่รู้สึกผิด
Productivity จริง ๆ คือการรู้ว่า “เวลาเราไม่ต้องทำอะไร เราก็ยังรู้สึกโอเค” เพราะงานสำคัญมันเดินหน้าแล้ว
สรุปง่าย ๆ
Productivity คือการทำให้ชีวิตง่ายขึ้น ไม่ใช่ยุ่งขึ้น
มันไม่ต้องสมบูรณ์แบบ แค่ “ค่อย ๆ ดีขึ้น” ก็พอ
ไม่ต้องทำเหมือนใคร แค่หาวิธีที่เวิร์กกับเรา
เพราะสุดท้ายแล้ว Productivity ที่ดีที่สุดคือแบบที่เราทำแล้ว “ชีวิตดีขึ้น” ไม่ใช่แค่ “เสร็จงานมากขึ้น” 🤍